เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าฟอร์มแรงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้ไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 แต่ก็ไม่ได้ว่างด้วยเหตุว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับการสานสัมพันธ์รักหวานชุ่มฉ่ำกับ อิซาเบล เฮาเซ็งจ์ โยแฮนเซ่น แข้งสาววัย 18 ปี
สตาร์ลูกหนังชาวประเทศนอร์เวย์ กำลังปลูกต้นรักกับ อิซาเบล ซึ่งเป็นนักฟุตบอลหญิงและ มาจากเมืองเดียวกับ ฮาลันด์ หลังทั้งสองคนออกเดทกันมาแล้วช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา และล่าสุดก็มีภาพพวกเขาอยู่ในเมืองมาร์เบลล่าช่วงอาทิตย์นี้
อดีตดาวยิง “เสือเหลือง” โบรุสเซียดอร์ทมุนด์ กับ อิซาเบล เติบโตมาด้วยกันที่เมืองไบรน์ และเป็นเพื่อนกันมานานหลายปี แถมยังเล่นฟุตบอลด้วยกันให้กับสโมสรลูกหนังท้องถิ่น
ศูนย์ข่าวเผยกับ “เดอะ ซัน” สื่อดังในอังกฤษว่า “มันดูเหมือนกับทั้งสองคนจะจริงจังกันมาก อิซาเบล เคยเดินทางไปที่เยอรมนี และ อังกฤษ เพื่อไปดูฮาลันด์ ลงเล่น และตอนนี้คุณก็อยู่กับเขา ที่เมืองมาร์เบลล่า อืม อิซาเบล เป็นคนสวยมาก พวกเขารู้จักกันและกันมานานแล้ว”
ทั้งนี้ฮาลันด์ ซึ่งเคยเล่นมุกว่าฟุตบอลเป็น “แฟนสาว” ของตน ฟอร์มแรงเหลือเกินนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นกับ “เรือใบสีฟ้า” โดยซัดไป 23 ประตูจาก 18 เกมในซีซั่นนี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ไปโชว์ฝีเท้าในศึกเวิลด์ คัพ ด้วยเหตุว่า ประเทศนอร์เวย์ ไม่ผ่านรอบคัดเลือก

ประวัติ เออร์ลิง เบราท์ ฮาลันด์
ดาวยิงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ว่าจะก้าวขึ้นไปเป็นกองหน้าเบอร์ 1 ของโลกลูกหนัง
ข้อมูลนักฟุตบอล
ชื่อจริง : เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์
เกิด : 21 กรกฎาคม 2000 ที่ลีดส์ ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร
อายุ : 22 ปี
สัญชาติ : ประเทศนอร์เวย์
ความสูง : 194 เซนติเมตร
ตำแหน่ง : กองหน้า
ต้นสังกัดปัจจุบัน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เส้นทางลูกหนัง
เด็กชายเออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ถ้าหากดูชื่อ นามสกุล ใครที่เป็นแฟนบอลรุ่นเก๋า ๆ ก็จะคุ้น ๆ หน่อย ด้วยเหตุว่านี่คือลูกชายสุดที่รักของ อัลฟ์-อิงเก้ ฮาแลนด์ อดีตกองกลางมีชื่อเสียงของน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั่นเอง
เจ้าหนูฮาแลนด์ เริ่มเส้นทางลูกหนังตั้งแต่อายุเพียงแต่ 5 ขวบ เขาได้เข้าไปเป็นเด็กฝึกฝนของสโมสรบริน ในลีกประเทศนอร์เวย์ และด้วยฝีเท้า ความสามารถพิเศษ และรูปร่างที่สูงใหญ่เกินวัยเดียวกัน ทำให้เจ้าตัวได้เลื่อนไปเล่นรุ่นที่อายุมากกว่าตนเองอยู่เสมอๆ
ฮาแลนด์ ฝึกหัด และลงเล่นอยู่ ที่ประมาณหนึ่งปี จนกระทั่งในปี 2016 เจ้าตัวได้โอกาสขยับขึ้นไปเล่น ชุดสำรองของสโมสร และเขาก็ต้องทำให้บรรดาทีมงานสตาฟฟ์โค้ชต้องตะลึง เมื่อเขาจัดการยิงไปถึง 18 ประตู จากการลงเล่นเพียงแต่ 14 เกม เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่สุดยอดอย่างมาก
จากนั้นไม่นาน ที่ปรึกษาคนเดี๋ยวนี้ในเวลานั้นของบริน ก็ถูกไล่ออก ทำให้สโมสรแต่งตั้งผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนขึ้นมาทำหน้าที่แทน และที่ปรึกษาคนใหม่ที่รู้ซึ้งถึงฝีเท้าของ เจ้าหนูฮาแลนด์ เป็นอย่างดี ได้ทำการดึงตัวเขาจากทีมสำรองขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ ถึงแม้เวลานั้นเขาจะมีอายุเพียงแต่ 15 ปี 9 เดือน เท่านั้น และเจ้าตัวก็ได้ลงสนามในทีมชุดใหญ่ครั้งแรก ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 นั่นเอง
ในช่วงแรกที่เล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ บริน เจ้าตัวเล่นในตำแหน่งปีก ก่อนที่จะถูกปรับตำแหน่งให้มาเล่นกองหน้า ทว่าฟอร์มการเล่นก็ยังไม่ค่อยเปรี้ยงปร้างมากนัก ลงเล่นไปทั้งหมด 16 เกมในลีก แต่ไม่สามารถยิงประตูได้เลยแม้ต่ลูกเดียว
แต่ด้วยฝีเท้า รูปร่างๆความทุ่มเทในการเล่น หรืออะไรก็ตามแต่ ทำให้ฟอร์มการเล่นของ ฮาแลนด์ ไปเข้าตาของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เวลานั้นรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของสโมสรโมลด์ ซึ่งในเวลาต่อมาทาง โมลด์ ก็ได้เข้าไปทาบทามตัว จนกระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2017 เจ้าตัวก็ได้ย้ายมาเซ็นสัญญาค้าแข้งกับสโมสรใหม่
เมื่อย้ายมาแล้ว ฮาลันด์ ก็ใช้เวลาไม่นาน
ก็ได้ลงสนามเกมแรก โดยเจ้าตัวได้ลงเล่นในศึกนอร์เวเจียนคัพ เมื่อวันที่ 26 เดือนเมษายน 2017 และเพียงแต่นัดแรกเจ้าตัวก็จัดการยิงประตูแรกได้ทันที เท่านั้นไม่พอ ต่อมาในวันที่ 4 มิถุนายน 2017 เจ้าตัวก็สร้างความฮืออีกครั้ง เมื่อลงเล่นเกมแรกในลีก ในฐานะตัวสำรอง และสามารถยิงประตูได้อีกด้วย และลูกนั้นยังเป็นประตูชัยให้กับทีมอีกต่างหาก จากนั้นเป็นต้นมา เจ้าตัวก็ถูกส่งลงสนามเรื่อยๆในฐานะตัวจริงบ้าง ตัวสำรองบ้าง จนกระทั่งจบซีซั่นได้ลงเล่นไปทั้งหมด 20 นัด และยิงไปได้ 4 ประตู
ฤดูกาลถัดมาถือเป็นฤดูกาลแจ้งเกิดของ ฮาแลนด์ เลยก็ว่าได้ เมื่อเขากลายมาเป็ตัวหลักของสโมสร แม้ว่าจะมีอายุเพียงแต่ 18 ปี และในฤดูกาลนี้เองที่เขาได้สร้างสถิติอย่างมากมาย ทั้งยังการยิงคนเดียว 4 ประตูภายใน 21 นาทีแรกของเกม, การซัดแฮตทริก ภายในเวลา 11 นาที 2 วินาที หรือแม้กระทั่ง การยิงได้ 4 ประตูภายในเวลา 17 นาที 4 วินาที
ซึ่งเมื่อจบซีซั่นนี้ เขากลายเป็น นักฟุตบอลที่ยิง ประตู มากที่สุดให้กับ โมลด์ ด้วยจำนวน 16 ประตู จากการลงเล่น 30 นัดจากทุกรายการ และเขายังได้รับตำแหน่งนักฟุตบอลดาวรุ่งเยี่ยมยอดแห่งปีของลีก อีกด้วย ซึ่งจากฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงนี้เอง ทำให้ไปเข้าตาของ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก สโมสรยักษ์ใหญ่ลีกออสเตรีย และได้ทำการขอ ซื้อตัวไปร่วมทีมในเวลาต่อมา
และล่าสุด ในฤดูกาล 2022-23 นี้ ฮาแลนด์ ก็จะเข้ามาเขย่าเวทีพรีเมียร์ลีกแล้ว เมื่อได้ย้ายจาก ดอร์ทมุนด์ มาค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมลูกหนังมีชื่อเสียง ด้วยค่าตัว 51 ล้านปอนด์
การย้ายมายัง “เรือใบสีฟ้า” คราวนี้ เรียกว่าเป็นก้าวสำคัญในการชีวิตการค้าแข้งของเจ้าตัวเลยก็ได้ ด้วยเหตุว่ามีหลายทีมที่ตามจีบเขาอยู่ ทว่าดาวยิงประเทศนอร์เวย์ก็ตัดสินใจเลือกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ซึ่งต้องมาดูกันว่า การมายังลีกที่ขึนชื่อว่าโหดและหินที่สุดในคราวนี้ ฮาแลนด์ จะทำผลงานได้เยี่ยมยอดแค่ไหน และจะสามารถสร้างสถิติอะไรให้แฟนบอลได้มองเห็นกันอีก