อังกฤษ VS อิหร่าน ผลบอล 6-2 อังกฤษ ประเดิมสนาม ฟุตบอลโลก 2022 ได้ดีเยี่ยม ภายหลังจากไล่กระหน่ำ อิหร่าน ไปแบบกินขาด 6-2 โดยเกมนี้ บูกาโย่ ซาก้า เหมาซัดผู้เดียวสองประตู ทำให้ ทัพ “สิงโตคำราม” เก็บสามแต้มตามคาด ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงกลุ่มบี ส่วน อิหร่านตกไปอยู่ลำดับบ๊วยของตารางคะแนน

ฟุตบอลโลก 2022 ทีมชาติอังกฤษ 6-2 ทีมชาติอิหร่าน

การแข่งขันชิงชัยบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบีนัดแรกที่สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม ประเทศกาตาร์ เมื่อวันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติอังกฤษ ดวลแข้งกับ ทีมชาติอิหร่าน

เริ่มครึ่งแรก นาทีที่ 8 อังกฤษ มาได้ลุ้น จากจังหวะที่ เคน ได้เปิดบอลจากทางเขตโทษฝั่งขวา ลูกพุ่งเลย ไบรานวานด์ นายทวารอิหร่าน ที่ออกมาปัดไม่โดน เลยไปที่เสาไกล ทว่า แม็กไกวร์ ที่เติมขึ้นมาดันยิงโดนไม่ดี ทำให้ลูกพุ่งเข้าข้างตาข่าย อย่างน่าเสียดายเป็นอย่างมาก

จากจังหวะนี้เอง เกมต้องหยุดลงหลายนาที เพราะเหตุว่าต้องดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้น ไบรานวานด์ ที่หน้าไปกระแทกกับเพื่อนร่วมทีม กระทั่งจมูกแตก รวมทั้งต่อมาเจ้าตัวก็เล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนตัวออกไป

นาทีที่ 30 อังกฤษ ที่ครอบครองเกมมากกว่าแทบขึ้นนำ จากจังหวะที่ สเตอร์ลิง ตวัดบอลเร็วจากหน้าเขตโทษ ไปให้ ซาก้า ด้านขวา แล้วจ่ายยัดมาให้ เมาท์ วิ่งเข้ามาชาร์จ ทว่าลูกก็พุ่งเฉี่ยวเสาออกหลังไปอีก

นาทีที่ 32 สิงโตคำราม พลาดขึ้นนำ เมื่อมาได้ลูกเตะมุม ทริปเปียร์ เปิดโค้งเข้าไปในเขตโทษ รวมทั้งเป็น แม็กไกวร์ ที่ได้โหม่งเน้นๆทว่าลูกก็พุ่งไปชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดายเป็นอย่างมาก

GOAL.. นาทีที่35 อังกฤษ ก็ขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ ลุค ชอว์ สบโอกาสเปิดบอลจากทางตัวเติมเกมรุกจากฝั่งซ้ายเข้ามาในเขตโทษ เและเป็น จู๊ด เบลลิงแฮม ที่สอดตัวขึ้นโหม่ง ลูกลอยแบบย้อยๆทิ่มตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม

GOAL…นาทีที่ 43 อังกฤษ นำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ ทริปเปียร์ เปิดลูกเตะมุมเข้ามาในเขตโทษ แม็กไกวร์ ขึ้นโหม่งชงกลับมาให้ บูกาโย่ ซาก้า ตั้งป้อมวอลเลย์ด้วยซ้ายตูมเดียว บอลพุ่งทิ่มตาข่ายแบบสุดสวยงาม

GOAL.. นาทีที่ 45+1 อังกฤษ นำไกล 3-0 จากจังหวะที่ เคน ได้บอลหน้าเขตโทษ ก่อนจะพาบอลหนีแนวรับอิหร่าน แล้วเปิดยัดเข้าไปในเขตโทษ รวมทั้งเป็น สเตอร์ลิง ที่กระโดดเข้ามาชาร์จแบบเน้นๆส่งลูกตุงตาข่ายแบบเด็ดขาด

หมดครึ่งเวลาแรก อังกฤษ นำห่าง อิหร่าน 3-0

กลับมาเตะกันต่อช่วงหลัง นาทีที่ 61 อิหร่าน มาได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะยิงไกลของ ซาอีด เอซาโตลาฮี ทว่าบอลก็ยังไม่ตรงกรอบ พุ่งออกหลังไป

GOAL…นาทีที่62 อังกฤษ นำห่าง 4-0 จากจังหวะที่ สเตอร์ลิง ได้บอลกลางสนาม ก่อนจ่ายออกทางซ้ายเขตโทษให้ บูกาโย่ ซาก้า ดึงจังหวะหลอกแนวรับอิหร่าน อยู่สองสามครั้ง แล้วลากตัดเข้ากลาง ก่อนจะซัดด้วยซ้าย ลูกไปแฉลบขานักเตะอิหร่าน พุ่งเข้าไปตุงตาข่าย

GOAL.. นาทีที่65 อิหร่าน มาได้ประตูตีไข่แตกไล่มา 1-4 จากจังหวะที่ อาลี โกลิซาเดห์ ได้บอลด้านขวาเขตโทษ ก่อนจ่ายหักข้อทะลุช่องให้ เมห์ดี้ ทาเรมี่ หลุดเข้าไปยิงตามน้ำ ลูกพุ่งเสยตาข่ายเข้าไปอย่างสุดสวยงาม

GOAL…นาทีที่71 อังกฤษ ทะยานนำห่าง 5-1 จากจังหวะที่ พิคฟอร์ด เปิดยาวจากแดนตนเองรวมทั้งเป็น เคน ที่ดูดบอลลงอย่างสวยงาม แล้วพลิกจ่ายให้ แรซฟอร์ด หลุดเข้าไปในเขตโทษทางขวาก่อนจะล็อกด้วยเท้าขวา แล้วซัดด้วยซ้าย ลูกพุ่งทิ่มตาข่ายสุดสวยงาม

GOAL..นาทีที่90 สิงโตำราม นำห่าง 6-1 จากจังหวะที่ วิลสัน ได้บอลหลุดกับดักล้ำหน้า พาบอลขึ้นไปด้านขวาของกรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายเข้ากลางมาให้ แจ็ค กรีลิช ได้แปแบบจ่อๆเข้าไปตุงตาข่ายแบบไม่ยากเย็น

GOAL…นาทีที่103 อิหร่าน มาได้ประตูไล่มา 2-6 จากลูกจุดลูกโทษ ที่ทีมมาได้จากจังหวะที่ จอห์น สโตนส์ ไปดึงเสื้อนักฟุตบอลอิหร่านล้มลงในเขตโทษ ในตอนแรกผู้ตัดสินยังไม่ได้เป่า ทว่ามีสัญญาณจากห้อง VAR ส่งมา รวมทั้งเป็นผู้ตัดสินไปดูภาพที่จอ ก็มาเป่าให้ทันที รวมทั้งเป็น เมห์ดี้ ทาเรมี่ ที่รับหน้าที่ฆ่าไม่พลาด

หมดเวลาการแข่งขันชิงชัย อังกฤษไล่กระหน่ำชนะอิหร่าน ไปแบบกินขาด6-2เก็บสามแต้มได้ตามคาดรวมทั้งส่งให้ “สิงโตคำราม” ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงกลุ่มบี ส่วนอิหร่านตกไปอยู่ลำดับบ๊วยของตารางคะแนน

สำหรับนัดหมายต่อไปอังกฤษจะพบกับสหรัฐอเมริกา ส่วนอิหร่านจะเจอกับเวลส์ ในวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ทั้งสองคู่ ถ่ายทอดสดทางช่อง True Sports 2

 

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงไปในสนาม

• อังกฤษ :

1. จอร์แดน พิคฟอร์ด (GK)
2. คีแรน ทริปเปียร์
3. จอห์น สโตนส์
4. แฮร์รี่ แม็กไกวร์
5. ลุค ชอว์
6. เดแคลน ไรซ์
7. จู๊ด เบลลิงแฮม
8. เมสัน เมาท์
9. บูกาโย่ ซาก้า
10. แฮร์รี่ เคน
11. ราฮีม สเตอร์ลิง

• อิหร่าน :

1. อลิเรซ่า ไบรานวานด์ (GK)
2. มอร์เตซ่า ปูราลิกานจี
3. รูซเบห์ เชสมี่
4. มายิด ฮอสเซนี่
5. ซาเดก โมฮารามี่
6. อาห์หมัด นูรอลลาฮี
7. อาลี คาริมี่
8. เอห์ซาน ฮาจซาฟี่
9. มิลาด โมฮัมมาดี้
10. อลิเรซา ยาฮันบัคช์
11. เมห์ดี้ ทาเรมี่

ตาราง ฟุตบอลโลก 2022 วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายนช่องถ่ายทอดสด

ตารางฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม 22 พฤศจิกายน 65 ศึกบอลโลก 2022 นัดแรกกลุ่ม Cรวมทั้ง กลุ่มD โดยในกลุ่มC จะเป็นคิวของ “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา ของแข้งระดับท็อปของโลกอย่าง เมสซี่ รวมทั้งในกลุ่ม Dเป็นคิวนัดแรกของแชมป์เก่า ฝรั่งเศส

เวลา 17.00 น. กลุ่ม C
อาร์เจนตินา vs ซาอุดีอาระเบีย
ช่องถ่ายทอดสด : True4U

เวลา 20.00 น. กลุ่ม D
เดนมาร์ก vs ตูนิเซีย
ช่องถ่ายทอดสด : True4U

เวลา 23.00 น. กลุ่ม C
เม็กซิโก vs ประเทศโปแลนด์
ช่องถ่ายทอดสด : ช่อง 3

เวลา 02.00 น. กลุ่ม D
ฝรั่งเศส vs ประเทศออสเตรเลีย
ช่องถ่ายทอดสด : MONO29

พีพีทีวี ช่อง 36 ถ่ายทอดสดบอลโลก 2022
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม A วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 65
เนเธอร์แลนด์ เจอ เอกวาดอร์ เวลา 23.00 น.

สรุปผลบอล ตารางคะแนน บอลโลก 2022 ในกลุ่ม A-B หลังผ่านเกมแรกกันครบทุกทีม พร้อมโปรแกรมนัดหมายต่อไปของ 8 ทีมในกลุ่มนี้

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565คืนที่ 2 ของศึกบอลโลก 2022 (21 พฤศจิกายน 65) ได้จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย 3 แมตช์เมื่ีอคืนที่ผ่านมาที่แข่งขันมีผลแพ้ชนะไป 2 แมตช์รวมทั้งแบ่งแต้มกันไป 1 แมตช์ร่วมกัน

ซึ่งนำมาซึ่งการทำให้กลุ่ม เอ รวมทั้ง บี ผ่านเกมแรกกันครบทุกทีมแล้ว โดยผลการแข่งขันทั้งหมดมีดังนี้

กลุ่มเอ

กาตาร์ 0-2 เอกวาดอร์
เซเนกัล 0-2 เนเธอร์แลนด์

ในกลุ่มนี้ เอกวาดอร์ รวมทั้ง เนเธอร์แลนด์ เป็นจ่าฝูงมี 3 คะแนนเสมอกันรวมทั้งผลต่างประตูได้เสีย +2 เท่ากัน ส่วน เซเนกัล รวมทั้ง กาตาร์ จะรั้งลำดับบ๊วยของกลุ่ม มี 0 คะแนน ผลต่างประตูได้เสีย – 2

โปรแกรมเกมต่อไปในกลุ่ม เอ จะชิงชัยในวันที่ 25 พฤศจิกายน นี้

20.00 น. กาตาร์ – เซเนกัล
23.00 น. เอกวาดอร์ – เนเธอร์แลนด์

กลุ่ม บี

อังกฤษ 6-2 อิหร่าน
เวลส์ 1-1 สหรัฐอเมริกา

ในกลุ่มนี้ อังกฤษ นำจ่าฝูงมี 3 คะแนน ผลต่างประตูได้เสีย +4 ตามมาด้วย เวลส์ รวมทั้ง สหรัฐอเมริกา ในลำดับ 2 ร่วม มี 1 คะแนน รวมทั้ง อิหร่าน ในลำดับในที่สุด มี 0 คะแนน ผลต่างประตูได้เสีย -4

โปรแกรมเกมต่อไปในกลุ่ม บี จะแข่งขันในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้

17.00 น. อิหร่าน-เวลส์
02.00 น.อังกฤษ-สหรัฐอเมริกา