โค้ชโย่ง

"โค้ชโย่ง" เชื่อแข้งไทยรับมือ เสียงเชียร์แฟนบอลมาเลเซียได้

อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดยู-23 ปี มั่นใจว่า เสียงเชียร์แฟนบอลมาเลเซียจำนวนมากในบ้านอาจมีผลต่อทีมชาติไทยในรอบรองชนะ ศึกอาเซียนคัพ 2022 อยู่บ้าง แต่มั่นใจว่าประสบการณ์ของนักเตะ และก็การนำข้อผิดพลาดจากนัดก่อนๆมาแก้ไข จะช่วยทำให้ทีมคว้าชัยชนะได้

“โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ อดีตกุนซือทีมชาติไทย ชุดยู-23 ปี

ได้แสดงทรรศนะกับทีมข่าวกีฬา PPTV ก่อนเกมฟุตบอลอาเซียนคัพ 2022 รอบรองชนะ นัดแรกที่ ไทย จะบุกไปเยือน โดยอดีตกองหน้าทีมชาติไทยเชื่อว่า เสียงเชียร์ของแฟนบอลมาเลเซียจำนวนมากในบ้าน อาจมีผลอยู่บ้าง แต่กองทัพ “ช้างศึก” เคยมีประสบการณ์จากเกมเยือนมาแล้วในทัวร์นาเมนต์นี้ น่าจะรับมือได้แล้วก็สิ่งสำคัญคือต้องควบคุมอารมณ์ให้ดี

โค้ชโย่ง วรวุธ ศรีมะฆะ

“พวกเราก็เจอเกมกับอินโด ที่บ้านอินโดมาแล้ว เรามีประสบการณ์ในการเล่นนอกบ้านที่คนดูเยอะมากๆ”
“ทีมชาติไทยชุดนี้ ก็เจอมาเลเซียชุดนี้บ่อย ก็รู้อยู่แล้วใช่มั้ยว่าการเล่นกับมาเลเซีย นอกบ้านเล่นอย่างไร ที่สำคัญต้องควบคุมอารมณ์ สำคัญมากตรงนี้”

ส่วนในเรื่องที่ไทย ไม่ชนะมาเลเซีย มาแล้วถึง 8 ปี ด้วยกัน หรือใน 6 เกมหลังที่พบกัน เห็นว่าไม่มีอาถรรพ์ เนื่องจากฟุตบอลสมัยนี้ทุกทีมใกล้เคียงกันหมด
“ฟุตบอลมันเกือบๆเท่ากันหมดอะนะ อยู่ที่ว่าวันนั้นใครสามารถที่จะเก็บข้อผิดพลาด รวมทั้งทำประตูได้มากกว่าเท่านั้นเอง”

“การไปเจอมาเลเซีย ในความเป็นจริงแล้ว หากพวกเรานับสถิติพวกเราไม่ชนะ แต่การออกไปเสมอก็ถือว่าโอเคใช่มั้ยกับการไปเล่นนอกบ้าน”
“แต่การที่เราไม่ชนะมา 8 ปี มันก็เป็นแค่จังหวะฟุตบอล มันคงไม่ใช่อาถรรพ์ เพราะเหตุว่าแต่ละเกมพวกเราเองก็มีข้อผิดพลาด ก็ต้องแก้ไขอยู่แล้ว”
“ต้องนำข้อผิดพลาดจากเกมรอบแรก ที่่เจอกับ อินโดนีเซีย แล้วก็ กัมพูชา มาดูว่าในเกมกับมาเลเซีย พวกเราจะแก้ไขข้อผิดพลาดจาก 2 เกมนั้นอย่างไร”

สำหรับ ทีมชาติไทย จะบุกไปเยือน มาเลเซีย ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก วันที่ 7 มกราคม 2566 เวลา 19.30 น. ที่สนามบูกิต จาลิล สเตเดียม ก่อนกลับมาเล่นในบ้าน นัดที่ 2 วันที่ 10 มกราคม 2566 เวลา 19.30 น. ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ถ่ายทอดสดทางช่อง 9 Mcot HD30 ทั้งสองนัด

แข้งไทย

เปิดผลงานโค้ชโย่ง วรวุธ ศรีมะฆะ หลังประกาศลา ทีมชาติไทยU23

โดยผลงานของ “วรวุธ ศรีมะฆะ” ในรอบ 2 ปีกับการเข้าคุม ทีมฟุตบอล ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปีในปี 2020 โดยมี โค้ชโชคทวี พรหมรัตน์ เป็นผู้ช่วยครูฝึก สู้ศึกชิงแชมป์ เอเชีย 2022 รอบเลือกสรร รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี โดยผลงาน ในการคุมทีมคราวนั้น

ในรอบเลือก 3 เกมทีมชาติไทยU23 ทำผลงาน ชนะ 1 เสมอ 2

สามารถผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นทีมอันดับ 2 ที่ดีที่สด ผ่านเข้ารอบสุดท้ายที่ประเทศอุซเบกิสถานทั้งนี้ ในศึก ฟุตบอล รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ที่ประเทศ อุซเบกิสถาน ซึ่งจบการ แข่งขันไป ในคราวนี้

ทีมชาติ ซาอุดิอาระเบีย คว้าแชมป์ ไปครอง โดย “ทีมชาติไทยU23” ในการคุมทีมของ วรวุธ ศรีมะฆะ ไม่สามารถพา ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ ฟุตบอล U23 ชิงแชมป์เอเชีย 2022 ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ได้สำเร็จ

ด้วยผลงานชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ในรอบแบ่งกลุ่มสำหรับ “โค้ชโย่ง” อายุ 49 ปี เริ่มคุมทีม สโมสร ปทุมธานี ในปี 2010 ต่อด้วยคุม สงขลา ปี 2011 โดยมีผลงาน ดีที่สุดในการ คุมทีม สุพรรณบุรี เอฟซี จบรองแชมป์ ดิวิชั่น 1 (ไทยลีก 2) เลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก ในปี 2012 โดยเลือก รับงานผู้ช่วยให้กับชลบุรี เอฟซี 2013-2014 ก่อนจะกลับมา สุพรรณบุรี เอฟซี ในปี 2015 -2017จากนั้น เข้าคุมโค้ช ทีมชาติ เริ่มจากการเป็นโค้ชยู 23 ปี ระหว่าง 2016-2017 ก่อนที่จะขึ้นไปทำทีมชุดใหญ่

ในฐานะผู้ช่วยปี 2017 แต่เพียงไม่นานก็ถูกส่ง ลงมาคุม ทีมชุดเล็กยู 23 ปี อีกที ก่อนที่จะพาทีมคว้าแชมป์ ฟุตบอล ชายซีเกมส์ 2017ที่ประเทศมาเลเซีย แต่ก็ต้องมาออกจากตำแหน่งในปี 2018

หลังจากที่พาทีม ตกรอบแรกฟุตบอลชาย เอเชียนเกมส์ ที่ อินโดนีเซีย ยิ่งกว่านั้น เขายังเคยลงไปดู ทีมชาติไทยชุดยู 21 ปี ช่วงสั้น ๆ บางครั้ง สามารถคว้าแชมป์ 4 เส้า เนชั่นส์คัพ ในปี 2016 มาได้อีกด้วยหลังล่ำลา

ทีมชาติไทยU23 “โค้ชโย่ง” กลับมาฝ่า สนามไทยลีกต่อ แต่เลือกไปทำ ทีมในระดับไทยลีก 2 กับ เกษตรศาสตร์ เอฟซี ในปี 2019 แต่ผลงานไม่ดีนัก ออกจากตำแหน่ง ก่อนจบฤดูกาลกระทั่งไปคุมศุลกากรในปี 2020

แต่ก็อยู่ได้เพียงแต่ เลกเดียว ตัดสินใจไปรับงานกับ จังหวัดศรีสะเกษ เอฟซี ก่อนที่จะนำทีมตกชั้นสู่ไทยลีก 3 และก็เข้ามารับงาน คุมทีมชาติไทยชุดU23 อีกทีในปี 2021-2022 ก่อนจะประกาศลาออกจาก การคุมคราวนี้ รวมทั้งกลับมารับงานคุมทีม สโมสร “เกษตรศาสตร์ เอฟซี” หรือ “นาคามรกต”ในถิ่นอินทรีจันทรสถิตย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์